Green Crack กัญชายอดฮิต กรีนแครก เกรดพรีเมี่ยม จัดส่งเร็ว

เมื่อพูดถึงสายพันธุ์กัญชามาแรงคงต้องยกให้ Green Crack ทันที เนื่องจากว่าปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมของผู้ใช้วงกว้าง โดยส่วนหนึ่งสืบเนื่องมาจากว่าเป็นสายพันธุ์ที่ติดท็อป 5 สายพันธุ์ ดอกกัญชาที่ดีที่สุดและถูกใจควรใช้จริงมากที่สุดตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา ส่วนปัจจุบันยังคงขึ้นแท่นเป็นสายพันธุ์ที่กำลังมาแรงเหมือนเดิม ดังนั้นเมื่อเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมจึงไม่ควรพลาดข้อมูลดี ๆ ที่จะทำให้รู้จักกับสายพันธุ์นี้มากขึ้น เพื่อใช้สำหรับตัดสินใจว่าในอนาคตควรลองใช้สายพันธุ์นี้เพื่อการรักษาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ หรือเปล่า

Green Crack (กรีนแครก) ที่มีขายบนร้าน BANGWEED

หัวข้อแนะนำ

ต้นกำเนิดกัญชา Green Crack เริ่มมาจากไหน ?

ต้นกำเนิดของสายพันธุ์ Green Crack เป็นกัญชา Hybrid ระหว่างสายพันธุ์ซาติวาและอินดิก้า แต่ถิ่นกำเนิดที่แท้จริงยังเป็นข้อถกเถียงกันในปัจจุบัน เนื่องจากยังไม่ได้ข้อสรุปเป็นทางการ ทั้งนี้คาดว่าน่าจะมาจากการพัฒนาสายพันธุ์ชื่อ Cecil C ด้วยวิธีการผสมข้ามสายพันธุ์ Skunk #1 เมื่อปี 1990 ที่รัฐโอไฮโอ อเมริกา จนได้สายพันธุ์ใหม่ที่ลงตัว และเหมาะกับการใช้จริง โดยเฉพาะในวงการแพทย์ปัจจุบันเป็นสายพันธุ์ที่ใช้เพื่อการรักษาหลายโรคด้วยกัน

ทำความรู้จักที่มาของ Green Crack มากขึ้นก่อนเลือกใช้งาน

ก่อนจะลงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนอื่นๆ ของ Green Crack ตอนนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสายพันธุ์นี้กันว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีความพิเศษหรือมีความแตกต่างจากสายพันธุ์อื่นอย่างไร โดยสายพันธุ์นี้คือสายพันธุ์ซาติวา (Sativa) โดยเป็นลูกผสมของกัญชา Green Crack มีกลิ่นหอมจากผลไม้เป็นหลัก 

ส่วนรสชาติจะออกรสผลไม้ ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้โดยตรง มี THC อยู่ที่ 18-20 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะได้รับความนิยมจากผู้ใช้สูงมาก แต่กลับไม่ค่อยนิยมใช้กันในการแพทย์มากนัก ส่วนเรื่องของผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้จริง ได้ผลดีและตอบโจทย์ของทุกคนโดยตรง 

กัญชาสายพันธุ์ Green Crack มีลักษณะอย่างไรบ้าง

ลักษณะโดยเฉพาะของกัญชาซาติวา ควรรู้ก่อนใช้ หรือทำการเพาะปลูกมีดังนี้

1. ลักษณะทางพันธุ์ศาสตร์

  • ลำต้นจะมีความสูงได้ถึง 90-120 ซม.
  • ใบจะมีสีเขียวปนเหลือง มีลายสีม่วงหรือริ้วเมื่อมีอาการเย็น
  • ดอก จะมีลักษณะลีบแบน กระจุกกันเป็นก้อนมีขนสีขาวหรือเรียกว่า ไตรโคม ปกคลุม และมีเกสรตัวเมียสีคล้ายสนิม

2. องค์ประกอบต่าง ๆ ของสายพันธุ์

  • มีผลดีเมื่อใช้ในช่วงเช้า
  • มีสาร THC 16-20% และ CBD 0.2%
  • กลิ่นและรสชาติของสายพันธุ์คล้ายกับผลไม้เขตร้อน
  • มีเทอร์ปีนกลุ่ม Myrcene, Caryophyllene, Limonene, Pinene

3. วิธีการปลูกและการดูแล

  1. เตรียมวัสดุการปลูกเช่น ดิน พื้นที่หรือกระถาง และเมล็ด
  2. เตรียมเมล็ดพันธุ์ จะต้องแช่เมล็ดในน้ำอุ่น 24-48 ชั่วโมง หรือจนเมล็ดเริ่มงอกยอดอ่อน
  3. ย้ายต้นกล้าที่มีใบจริงประมาณ 2-3 ใบ ย้ายลงในที่ต้องการปลูก
  4. การดูแล รดน้ำ พรวนดิน และใส่ปุ๋ยสม่ำเสมอในปริมาณที่เหมาะสม และระหว่างโรคพืชต่าง ๆ เช่น รา แมลง และวัชพืชอื่น ๆ
  5. ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวจะอยู่ที่ 7-8 สัปดาห์ นับตั้งแต่ปลูกลงดิน

Green Crack มีกลิ่นและรสชาติอย่างไร?

ส่วนของกลิ่นของกัญชากรีนแคร็กมีความโดดเด่นมาก คล้ายกับผลไม้ในเขตร้อน โดยมีข้อมูลดังนี้

กลิ่น

ทั่วไปแล้วจะมีกลิ่นหลักคือกลิ่นมะม่วง ให้ความรู้สึกหอมหวานและสดชื่น ทำให้เป็นที่มาของชื่ออีกชื่อว่า “Mango Crack” นอกจากนั้นยังมีกลิ่นผลไม้ชนิดอื่น ๆ อยู่เช่นกันคือ กลิ่นส้มและสับปะรด อีกทั้งยังมีกลิ่นดินและไม้แฝงอยู่เพิ่มเติม

รสชาติ

รสชาติของสายพันธุ์นี้จะหวานฉ่ำ โดยจะทิ้งรสหวานแบบกลมกล่อมไว้ในปาก อีกทั้งยังมีรสเปรี้ยวเล็ก ๆ ปนอยู่ด้วย ทำให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าอย่างมาก

กัญชาสายพันธุ์ Green Crack ส่งผลต่อผู้ใช้อย่างไร?

การใช้กัญชาสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือเอฟเฟกต์ที่ร่างกาย ซึ่งหลายกลุ่มมีผลกระทบต่อน่าตกใจ ดังนั้นก่อนใช้ควรปรึกษาแพทย์ก่อน หรือหากแพทย์อนุญาตให้ใช้แนะนำให้สังเกตอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังใช้ดังนี้

  1. ปากแห้ง ตาแห้ง
  2. มีอาการใจสั่น สติแปรปรวน เหงื่อออก
  3. เกิดอาการแพนิค มีความหวาดระแวง หรือบางรายอาจจะมีอาการหูแว่ว เห็นภาพหลอนร่วมด้วย
  4. ความดันโลหิตการเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ และเป็นลมได้

Green Crack มีสรรพคุณช่วยอะไรบ้าง

ความโดดเด่นของสายพันธุ์นี้คือกลิ่น แต่นอกจากกลิ่นแล้วยังเป็นสายพันธุ์ที่นิยมนำมาสกัดน้ำมัน หรือสารต่าง ๆ สำหรับการแพทย์ ใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยอีกหลายโรค เนื่องจากว่ามีสารสกัดที่ให้สรรพคุณทางการแพทย์หลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น

  1. เพิ่มสมาธิ: ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์ จดจ่อกับงานมากขึ้น
  2. ลดความเครียดและผ่อนคลาย: ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ไม่วิตกกังวล นอนหลับง่าย
  3. กระตุ้นร่างกาย: มีความสดชื่น ลดความเหนื่อยล้า กระตุ้นความอยากอาหารมากขึ้น
  4. บรรเทาอาการปวด: ช่วยบรรเทาอาหารปวดจากแผลต่าง ๆ รวมถึงอาการปวดเรื้อรังได้ดี

เคล็ดวิชาปลูกกัญชากรีนแครกให้ได้ผลดีง่าย ๆ ดังนี้

ต่อเนื่องกันด้วยวิธีการปลูกกัญชาสายพันธุ์ กรีนแครก ยอดนิยมไม่ยากจริง ๆ เพราะก่อนหน้านี้มีมือสมัครเล่นหัดปลูกยังได้ผลดีอย่างมาก แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยลองปลูกมาก่อนลองนำทริคดี ๆ จาก Bangweed ไปใช้เพื่อให้ได้ผลผลิตตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งรับประกันว่ามีมากกว่า 80% ส่วนจะมีทริคอะไรกันบ้างที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจปลูกสายพันธุ์นี้คือ

ต้องเตรียมพื้นที่ปลูกกัญชา Green Crack กลางแจ้ง

สายพันธุ์กรีนแครก เป็นสายพันธุ์ที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาวะแดดร้อน ทำให้เป็นสายพันธุ์ที่ต้องการแสงสว่างเพื่อการเจริญเติบโต ส่วนใครที่ตั้งใจปลูกไว้ในที่ร่มหรือภายในบ้านเพื่อป้องกันปัญหาอื่น ๆ เช่นศัตรูพืชควรมีระบบไฟที่คอยส่องสว่างให้กับสายพันธุ์นี้มากพอ และตำแหน่งของไฟไม่ควรอยู่ใกล้หรือไกลมากจนเกินไป

เติมสารอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละระยะ

การเติมสารอาหารให้ กรีนแครก ครบถ้วนเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญทำให้ต้นกัญชามีการเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งต้องไม่ลืมว่าพืชชนิดนี้จะต้องมี 3 ธาตุอาหารหลัก ๆ ที่จำเป็นคือ ไนโตรเจน (N), โพแทสเซียม(K) และฟอสฟอรัส (P) ส่วนธาตุอาหารอื่น ๆ ที่พืชต้องการคือ แคลเซียม (Ca), ทองแดง (Cu) และเหล็ก (Fe) ดังนั้นหากขาดหรือมีธาตุตัวไหนมากเกินไปให้คอยสังเกตจากลักษณะของใบหรือลำต้นเป็นอันดับแรก รวมถึงต้องหมั่นสำรวจเรื่องของราสีเทาซึ่งเป็นตัวร้ายทำให้การเจริญเติบโตไม่ค่อยดี

ให้น้ำในปริมาณพอดี

การปลูกกัญชา green crack / กรีนแครกไม่ได้ต่างจากการปลูกพืชทั่ว ๆ ไป ซึ่งหากดูแลเป็นถือว่าเป็นพืชที่ดูแลไม่ยากเลย และการรดน้ำก็เช่นกันโดยจะต้องให้น้ำแค่พอดีกับความต้องการ ไม่น้อยเกินไปและต้องไม่ชื้นจนเกินไป เพราะความชื้นจะเป็นตัวปัญหาเรื่องของรากเน่าหรือทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้ ที่สำคัญน้ำที่ใช้ควรหลีกเลี่ยงน้ำประปาดีที่สุด

คงค่า pH ดินให้อยู่ในประมาณที่เหมาะสม

การเตรียมดินก่อนปลูกและหลังจากปลูกกรีนแครกแล้ว ควรผสมและรักษาค่า pH ให้อยู่ระหว่าง 6.3-6.8 ถึงจะเป็นผลดีต่อการเจริญเติบโต แต่หากตรวจพบว่าค่า pH ของดินมีการเปลี่ยนแปลงให้ใช้น้ำสะอาดปล่อยผ่านดินเพื่อชะล้างดิน และกำจัดสารปนเปื้อน โดยสารเหล่านี้จะเป็นสารที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอนหากเลือกปลูกกลางแจ้ง เนื่องจากมีโอกาสมากับลมหรือฝนได้ทุกเวลา

สรุป ปัจจุบัน Green Crack เป็นทางเลือกมาแรงของวงการกัญชา

ปัจจุบันต้นกัญชาสายพันธุ์ Green Crack กำลังเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ทางเลือกมแรง สำหรับคนที่ทำตามคิดจะใช้พืชกัญชา เพื่อการรักษาอาการป่วย ถึงแม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้อยู่กลุ่มที่แพทย์นิยมใช้ก็ตาม แต่จากสรรพคุณของร้านตามมาใช้ประโยชน์มีผลดีต่อผู้ใช้ไม่แพ้สายพันธุ์อื่น และในอนาคตมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงที่จะถูกนำมาวิจัยเพิ่มเติม เพื่อนำมาใช้ประโยชน์สำหรับวงการแพทย์ให้ครอบคลุมโรคต่าง ๆ เหมือนกับสายพันธุ์อื่นมากยิ่งขึ้น

Scroll to Top