Blue Dream ทำความรู้จักกับสายพันธุ์ที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย
เวลานี้น้อยคนจะไม่รู้จัก Blue Dream สายพันธุ์กัญชาลูกผสมที่โด่งดังจากฟากตะวันตก โดยมีต้นกำเนิดจากแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีต้นกำเนิดจากการผสมหลายสายพันธุ์ ทำให้มีจุดเด่นมากขึ้นและมีความโดดเด่นมากกว่า Sativa ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรสชาติและกลิ่น รวมถึงประโยชน์ในด้านการรักษา ส่งผลให้ในปัจจุบันถูกนำมาใช้ประโยชน์ในวงการแพทย์มากขึ้น ดังนั้นอย่าช้ามาทำความรู้จักกับสายพันธุ์นี้มากขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกในการรักษาในผู้ป่วยโรคต่าง ๆ มากขึ้น
หัวข้อแนะนำ
ต้นกำเนิดกัญชา Blue Dream ถิ่นกำเนิดจากไหน ?
สำหรับกัญชาสายพันธุ์ Blue Dream มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอเมริกา ในรัฐแถบชายฝั่งตะวันออกอย่างแคลิฟอร์เนีย ที่มีอากาศร้อนและหนาวที่พอดี โดยจะเป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ Sativa ระหว่างblueberry และ haze มีชื่อเดิมว่า Blueberry Haze คิดค้นและผสมโดย DJ Short ให้รสสัมผัสในการสูบกลิ่นหอมผลเบอร์รี่ ทั้งสดชื่นและมีผลกระทบกับผู้สูบที่น่าพึงพอใจเลยทีเดียว เป็นที่นิยมใช้อย่างมากตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปัจจุบัน
กัญชาสายพันธุ์ Blue Dream มีลักษณะอย่างไรบ้าง
สำหรับลักษณะของกัญชาสายพันธุ์นี้ เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในหมู่ผู้สูบว่ามีลักษณะโดยทั่วไปดังนี้
มีกลิ่นบลูเบอร์รี่ที่ชัดเจน
อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าเป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง blueberry และ haze ทำให้ลักษณะกลิ่นของกัญชาสายพันธุ์นี้ให้ความรู้สึกสดชื่น มีความหอมสดชื่นในระหว่างการสูบ
ง่ายต่อการเจริญเติบโต
นอกจากความนิยมที่สูงแล้ว สายพันธุ์นี้มือใหม่ก็สามารถปลูกได้เช่นกัน เพราะว่าสายพันธุ์นี้เติบโตได้ดีทั้งในร่มและกลางแจ้ง และสามารถออกดอกได้เลยภายในเวลาแค่ 8-9 สัปดาห์เท่านั้น
มีดอกตูมและมีขนาดใหญ่ ความหนาแน่นสูง
ลักษณะที่เห็นได้จากภายนอกจะเป็นลักษณะของดอกกัญชาที่ตูมและมีความหนาแน่นสูง และเมื่อเด็ดออกมาทำให้แห้งแล้ว ก็จะได้ปริมาณดอกเพื่อใช้ในการสูบที่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว มีขนสีส้มจำนวนมากและดอกจะมีสีเขียวอมฟ้า ในบางครั้งก็จะมีสีม่วงหรือสีชมพูเมื่อมีอายุมากขึ้น
มีปริมาณ THC ต่ำระหว่าง 17% - 24% เท่านั้น
เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ผสม จึงทำให้กัญชาสายพันธุ์นี้มีปริมาณ THC ที่ค่อนข้างจำกัด และความเข้มข้นของ THC ยังขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในการปลูกอีกด้วย โดยการปลูกในร่มจะให้บริการ THC ที่เยอะกว่า
Blue Dream มีกลิ่นและรสชาติอย่างไร ?
รสชาติและกลิ่น ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ในการใช้งานของสายพันธุ์นี้เลยทีเดียว โดยสามารถแบ่งได้ตามนี้
- กลิ่น: ให้กลิ่นที่ผสมผสานระหว่างกลิ่นเบอร์รี่กับกลิ่นดินเล็กน้อย
- รสชาติ: รสหอมหวานและเผ็ดในขณะเดียวกัน ได้กลิ่นของส้ม และมะนาวผสมด้วยจึงได้รสชาติดี
กัญชาสายพันธุ์ Blue Dream ส่งผลต่อผู้ใช้อย่างไร?
สำหรับผู้ที่สนใจกัญชา blue dream อาการเมื่อสูบเป็นอย่างไรบ้าง โดยรวมแล้ว blue dream รีวิวที่ได้รับจากผู้ใช้งานจริงจะมีดังต่อไปนี้
- ทำให้ผู้ใช้มีความสุขและรู้สึกร่าเริงหลังจากใช้งาน
- ให้พลังงานและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานได้ดี
- เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในกลุ่มศิลปิน
- ทำให้อาการวิตกกังวล หรือซึมเศร้าหายไปและรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
- มีผลทำให้ปากแห้งหรือตาแดงได้ในผู้ใช้บางกลุ่ม แต่ไม่ได้พบบ่อยในกลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่
blue dream สรรพคุณช่วยอะไรบ้าง
เช่นเดียวกับกัญชาทั่วไป การใช้งานกัญชา Blue Dream ก็ให้สรรพคุณทางยาได้เช่นกันหากใช้อย่างเหมาะสม นอกจากความอร่อยและหอมหวานในรสสัมผัสและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว จะได้พบกับสรรพคุณในการใช้งานต่อไปนี้ แบ่งเป็นสองแบบได้แก่
สรรพคุณทางการแพทย์
- ช่วยบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง หรืออาการปวดทั่วไปได้
- คลายความวิตกกังวลและความเครียดให้กับผู้ใช้งานได้อย่างดี
- ลดภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี เพราะส่งผลกับระบบประสาทโดยตรง
สรรพคุณหลัก
- ให้พลังงานและสร้างแรงจูงใจได้เป็นอย่างดี
- เมื่อสูบแล้วผู้ใช้จะไม่รู้สึกถึงความตึงเครียด ส่งผลให้ร่าเริงและมีความสุขมากขึ้น
- เหมาะสำหรับการสังสรรค์และสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง
กัญชาบลูดรีมมีประโยชน์ครอบคลุมทุกวงการ
ต่อกันด้วยประโยชน์ที่ได้จากการใช้ Blue Dream กันต่อ ซึ่งจากความนิยมที่มีมากขึ้นต่อเนื่อง ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยว่ามีความน่าสนใจมากแค่ไหน จนทำให้วงการกัญชาต้องหยิบยกสายพันธุ์นี้มาพูดถึงบ่อย ๆ ฉะนั้นมาลองดูกันว่าเหตุผลหลักสำคัญที่ทำให้ดอกกัญชาสายพันธุ์นี้กลายเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ ที่กำลังมาแรงในปัจจุบันนั้นเป็นเพราะอะไร เพื่อความเข้าใจในการวางแผนใช้งานจริง หรือเป็นทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีการรักษาอาการป่วยรูปแบบใหม่ดังนี้
- ช่วยรักษาอาการซึมเศร้า, อาการปวดเรื้อรังได้
- ช่วยแก้ปัญหาเบื่ออาการ และอาการคลื่นไส้
- ลดอาการเครียด, เพิ่มอัตราการตื่นตัวมากขึ้น
- แก้ปัญหาโรคนอนไม่หลับได้ดีอีกด้วย
บลูดรีม Blue Dream มีสิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจใช้จริง
ถึงแม้ว่าสรรพคุณของ Blue Dream ที่ยกตัวอย่างขึ้นมาข้างต้นมีมากมายหลายเรื่องด้วยกัน แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้สายพันธุ์นี้ ต้องทำความเข้าใจในส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติมก่อนเลือกใช้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใช้, ใครเหมาะกับใช้สายพันธุ์นี้มากที่สุด รวมถึงอาการข้างเคียงที่จะตามมา เพราะทุกอย่างมีผลกระทบโดยตรงต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคนที่ใช้ ดังนั้นมาดูกันว่าสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้จริงมีอะไรกันบ้าง
วิธีการใช้
วิธีการใช้ blue dream จะไม่ต่างจากสายพันธุ์อื่น ๆ เพราะในวงการแพทย์จะสกัดให้สารที่เป็นประโยชน์และนำมาใช้กับการรักษาจริง ๆ เท่านั้น โดยอาจจะมาในรูปแบบของน้ำมันระเหย หรือที่เรียกกันว่า “น้ำมันกัญชา”, ยาแคปซูลตามที่ได้รับการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น โดยจะมีวิธีการใช้แตกต่างกันออกไป อาทิเช่นหยดใต้ลิ้นหรือทาไว้ในบริเวณที่นอน เป็นต้น
คนที่เหมาะกับสายพันธุ์นี้มากที่สุด
สำหรับคนที่เหมาะกับการใช้ Blue Dream มากที่สุดคือ ทุกคนที่มีอาการป่วยภาวะเสี่ยงโรคซึมเศร้า หรือมีปัญหานอนไม่หลับ รวมถึงคนที่ทำงานกลางคืนและต้องใช้เวลาพักผ่อนในช่วงกลางวัน เป็นต้น โดยกลุ่มนี้บางรายมีความจำเป็นต้องใช้กัญชาเข้ามาช่วย เพื่อลดอาการเครียดสะสม, ลดความกังวล หรือมีปัญหาในการนอนเรื้อรังมานาน
อาการข้างเคียง
ถึงแม้ว่าสายพันธุ์ blue dream จะมีประโยชน์สูงมาก แต่ใช่ว่าควรใช้บ่อย ๆ หรือใช้ในปริมาณมาก เพราะผลข้างเคียงที่จะตามมาถือว่ามีสูงมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาการวิตกกังวล อาการหวาดระแวง ปากและตาแห้ง นอกจากนั้นอาจจะทำให้มีอาการวิงเวียน และท้องเสียได้
สรุป สายพันธุ์ Blue Dream เวลานี้คือ The Best ในวงการกัญชาอีกตัว
ความโดดเด่นของสายพันธุ์นี้คงจะเป็นในเรื่องของกลิ่นที่ให้กลิ่นเบอร์รี่ที่ชัดเจนมาก ถึงแม้ว่าสรรพคุณในการใช้งานจะพบได้ทั่วไป แต่เนื่องจากเป็นพันธุ์ที่ให้ THC น้อยและเจริญเติบโตได้ง่าย จึงทำให้ Blue Dream สามารถสูบได้นาน ไม่ส่งผลกระทบในระยะยาวเหมือนสายพันธุ์ที่รุนแรง เหมาะสำหรับคนที่พึ่งสูบใหม่ ๆ เพราะกลิ่นหอม สูบง่าย