เจาะลึกเกี่ยวกับรายละเอียดที่สร้างความแตกต่างของเมล็ดกัญชาแต่ละสายพันธุ์ อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ลักษณะทางกายภาพ ค่า THC และ CBD หรือแม้แต่ รูป รส กลิ่น สี รวมถึงสารเคมีของดอกกัญชาแต่ละประเภทมีความแตกต่าง ซึ่งแต่ละสายพันธุ์หลังจากการใช้งาน ให้ผลการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย วันนี้ทาง Bangweed ผู้ผลิตและจำหน่ายกัญชาคุณภาพสูง อยากให้ทุกคนมาทำความรู้จักกับปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลให้การปลูกกัญชาในสภาพแวดล้อมต่างกัน เกิดความแตกต่างกันด้านสารเคมีผลการใช้งานกัน
หัวข้อแนะนำ
ความต้านทานโรคของเมล็ดกัญชาแต่ละสายพันธุ์
โรคของการปลูกกัญชาเกิดได้จากสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม และแมลงที่เข้ามาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การปลูกกัญชาเกิดโรค แต่ก็มีบางสายพันธุ์ที่สามารถต้านทานโรคได้สูง แต่บางสายพันธุ์ก็ไม่เหมาะกับการปลูกข้างนอกเพราะต้านทานโรคได้ต่ำ ยกตัวอย่างเช่น
- สายพันธุ์โอจิ OG Kush เป็นสายพันธุ์ที่มีความต้านทานต่อโรคของพืช และแมลงค่อนข้างสูง มีความแข็งในการปลูกในสภาพอากาศที่แตกต่างได้ดี ในขณะที่ยังคงคุณภาพและสารเคมีที่ผลิตได้จำนวนเท่าเดิม
- สายพันธุ์ Sativa หางกระรอก เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเพราะว่าสามารถปลูกได้ง่าย ต้านทานโรคได้ดีกว่าสายพันธุ์ Indica ซึ่งเป็นปัจจัยความต่างทางด้านพันธุกรรม
- สายพันธุ์โคลอมเบียน Colombian Gold ไม่ค่อยได้พบเห็นมากในประเทศไทย แต่เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่สามารถปลูกได้ง่ายและต้านทานโรคได้ดี ไม่ว่าจะเป็นแมลงหรือเชื้อราแม้ปลูกด้านนอก
- สายพันธุ์ kd คืออีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในไทยและมีความเข้มสูงมาก แต่ต้องพิถีพิถันในการดูแลมากเป็นพิเศษ จึงจะสามารถต้านทานโรคได้ดี โดยต้องปลูกไว้ในสภาวะที่เหมาะสมเท่านั้น
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการปลูกเมล็ดกัญชาแต่ละสายพันธุ์
ทีนี้ก็มาถึงสภาพแวดล้อมที่สำคัญสำหรับการปลูกกัญชาแต่ละประเภทเพื่อให้รสและคุณภาพที่ดี ซึ่งปัจจัยในการปลูกกัญชาให้ดีนั้นประกอบไปด้วย
ปริมาณแสงแดด
แสงแดดที่พอเหมาะสำหรับการปลูกเมล็ดกัญชาแต่ละสายพันธุ์ โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน และไม่ควรให้อยู่ในอุณหภูมิที่ร้อนมากจนเกินไป ยกตัวอย่างสายพันธุ์ Northern Lights และ Hindu Kush ที่ไม่สามารถทนต่อแดดได้นาน ชอบความเย็นและความชื้นมากเป็นพิเศษ จึงไม่สามารถรับแดดได้นาน
ความชื้นที่พอเหมาะ
บางสายพันธุ์จะต้องการความชื้นต่ำและบางสายพันธุ์ก็ต้องการความชื้นมากกว่าสายพันธุ์อื่น ได้แก่ Sativa ที่เหมาะแก่การปลูกในประเทศไทยมากเพราะมีความร้อนชื้นที่พอดี ทำให้สายพันธุ์นี้ในไทยมีคุณภาพสูง และสายพัน Indica เช่นกัน ที่ชอบความชื้นมาก อย่างไรก็ตามควรควบคุมอุณหภูมิในระหว่างการปลูกไปด้วย
อุณหภูมิในการปลูก
ความร้อนและความเย็นส่งผลต่อการปลูกเมล็ดกัญชาแต่ละสายพันธุ์ เป็นอย่างมาก Indica และ Sativa ชอบอุณหภูมิร้อนอยู่แล้วอย่างที่ทราบ แต่ Indica อาจจะชอบไปทางเย็นมากกว่า และสำหรับสายพันธุ์ ruderalis เป็นอีกหนึ่งประเภทที่ชอบความเย็นมาก ๆ แต่ด้วยตัวของมันแล้ว ไม่ได้ให้ปริมาณ THC มาก ไม่มีผลทางการรักษา ปลูกง่ายในพื้นที่เย็นแต่ไม่ได้รับความนิยมในการใช้งาน
ดินและปริมาณน้ำ
สายพันธุ์ Sativa เป็นหนึ่งสายพันธุ์ที่ต้องการน้ำปริมาณมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นสายพันธุ์ที่มีระบบรากเล็ก และมีอายุสั้น และมักต้องการดินที่ร่วนซุยเพื่อมีชีวิตรอด โดยที่ดินต้องมีค่ากรดที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ pH 6-7 ถือว่าพอดี และต้องได้รับแสงอย่างน้อย 12 ชั่วโมงต่อวัน
สรุป การปลูกเมล็ดกัญชาแต่ละสายพันธุ์แค่ดูแลให้ถูกต้องก็แข็งแรงได้
เทคโนโลยีการเพาะเมล็ดกัญชาแต่ละสายพันธุ์ ในปัจจุบันสามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้น รวมถึงปริมาณแสงแดดที่เหมาะสมได้แล้ว เพราะฉะนั้นการปลูกกัญชาในปัจจุบันจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแล แต่อาศัยความเชี่ยวชาญและความรู้ในการดูแลพืชกัญชาแต่ละประเภทให้ดีเท่านั้นทาง Bangweed เป็นอีกหนึ่งเจ้าที่ศึกษาเกี่ยวกับการปลูกและเพาะกัญชาแต่ละสายพันธุ์มานาน จึงสามารถผลิตและจำหน่ายกัญชาคุณภาพสูงได้ตามที่ตลาดต้องการใช้ราคาที่เหมาะสม แต่ดูแลต้นกัญชาเป็นก็ลดการเกิดโรค เพิ่มปริมาณสารเคมีและนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพได้
